การเดินทางไปฟูจิซังจากโตเกียว
- รถบัส ชื่อว่า Highway Bus โดยเราสามารถขึ้นจากสถานีชินจุกุ(Shinjuku) ไปลงที่สถานีปลายทางคาวากูจิโกะได้เลย การนั่งรถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที (ในช่วงเวลาที่รถไม่ติด หากเป็นช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสีการจราจรจะติดขัด)
ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ราคาคนละ ￥1,750, เด็ก ￥880/เที่ยว ควรจองก่อนเดินทาง 1 วัน สามารถจองออนไลน์และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://highway-buses.jp/course/kawaguchiko.php
พอมาถึงที่ Shinjuku highway bus terminal เราก็เอาใบจองที่ปริ๊นท์มายื่นที่เคาน์เตอร์ พร้อมกับชำระเงินได้ทันที สะดวกมากๆ
Shinjuku highway bus terminal สถานีรถบัสอยู่ที่ชั้น 4 ออกจาก JR Shinjuku station South exit ข้ามถนนแล้วขึ้นมาชั้น 4 หรือ ออกจาก JR Shinjuku station NEW South exit ก็จะถึงตึกเลย
- รถไฟ เป็นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วและตรงเวลาที่สุด แต่จะไม่ได้แค่ต่อเดียวจบ เพราะการนั่งรถไฟไปคาวากูจิโกะนั้นจะมีการเปลี่ยนขบวนรถ ค่าใช้จ่ายจึงจะเยอะกว่าการเลือกนั่งรถบัสอยู่เล็กน้อย
โดยเริ่มจากการนั่งรถไฟสาย Azusa จากสถานี JR Shinjuku หรือ Kaiji ไปลงที่สถานี JR Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารประมาณ 1,280 เยน *สามารถใช้ JR PASS ได้
การขึ้นรถไฟขบวนนี้มีตู้ 3 แบบ ซึ่งเราต้องเลือกขึ้นรถไฟให้ถูกตู้ด้วยโดยจะมีระบุที่ตั๋วรถไฟหรือที่ป้ายสถานี (ควรตรวจดูทุกครั้งก่อนขึ้น)
ตู้แบบที่ 1 สีเหลือง : สำหรับคนไม่ได้จองที่นั่ง
ตู้แบบที่ 2 สีแดง : สำหรับคนที่จองที่นั่ง
ตู้แบบที่ 3 สีเขียว : ที่นั่งแบบพิเศษ
จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway จากสถานี Otsuki ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ ￥1,110, เด็ก ￥560 (โดยประมาณ) *ไม่สามารถใช้ JR PASS ได้ โดยสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานี Otsuki (บอกพนักงานว่าไปลงสถานี คาวากูจิโกะ)
เราเดินทางด้วยรสบัสเพราะขี้เกียจขึ้นลงรถไฟหลายรอบ รถจอดที่สถานี Kawaguchiko แล้วสามารถขึ้นรถของโรงแรมมาได้เลย จะมีรถLimousine Bus วิ่งรับส่งฟรีช่วงเวลา 14.00-17.00 สามารถโทรบอกโรงแรมเอง หรือ แจ้ง information ที่สถานีก็ได้ เค้าจะโทรบอกให้ ขากลับจะมีรถจากรร. ตอน 10.10น. แนะนำว่าขากลับให้บอกทางโรงแรมล่วงหน้าตอนเย็น เพราะเราเจอรถเต็มมาแล้ว
ระหว่างรอรถของโรงแรมเราก็ไปซื้อตั๋ว Kawaguchiko/Saiko Sightseeing Bus แบบเหมาจ่าย 2 วัน “Red-Line” สำหรับเที่ยวรอบทะเลสาบ Kawaguchiko, “Green-Line” สำหรับไปทะเลสาบ Saiko, และ “Blue Line” สำหรับไปทะเลสาบ Motosuko สามารถโดยสารได้ทั้งรถ Retro bus และ Omni bus
เราเลือกเฉพาะ Red กับ Green Line ราคา ￥1,200 (ถ้าไม่ซื้อก็สามารถจ่ายรายเที่ยวได้ คิดค่าโดยสารตามระยะทาง เริ่มที่ ￥150 แต่ซื้อพาสเถอะ ถ้านั่งเกินหนึ่งป้าย ค่ารถแพงมากกกกก) พาสนับเวลาใช้เป็นวัน ไม่ใช่ 48 ชั่วโมง
เส้นทางเดินรถ pdf file และ ตารางเดินรถ (คลิกที่นี่)
ถ้ามาไม่ทันรถโรงแรมก็สามารถนั่ง Bus ไปลงป้าย 20 จอดหน้าโรงแรมเลย
คืนแรกเราพักห้องแบบ Japanese-style Room
ห้องไม่ใหญ่มาก ขนาดประมาณ 15.5ตร.ม.
หลังกินข้าวเย็นเสร็จทางโรงแรมจะมาปูฟูกนอนให้
ในห้องมีชาเขียว ขนมนิดหน่อย และอุปกรณ์สำหรับแช่ออนเซ็น
ในห้องก็มีห้องน้ำห้องส้วมให้แยกส่วนกัน
มีที่นั่งชมวิวฟูจิซัง แต่วันที่ไปเมฆเยอะทั้งสองวัน มองไม่ค่อยเห็น
อาหารเย็นเสิร์ฟเป็นคอร์ส สามารถเลือกจองห้องไม่รวมอาหารได้
หน้าตาสวยงามทุกจาน แต่รสชาติอาจจะแพ้หน้าตาหน่อยนึง
เราว่าไม่ค่อยคุ้ม ซื้ออาหารจากมินิมาร์ทที่สถานีมากินเองคุ้มกว่า
แต่อาหารเช้าที่นี่ดี คุ้มราคา
เนื่องจากมีคนสูงอายุมาด้วย ทริปนี้เลยเน้นพักผ่อน เที่ยวไม่ดุเท่าไหร่
วันรุ่งขึ้นก็ตระเวนเที่ยวรอบทะเลสาบคาวากูชิโกะโดยใช้พาสที่ซื้อมา
ใครไม่ได้พักที่ Sunnide สามารถนั่งรถมาลงป้าย 20 Sunnide Resort มาชมฟูจิซังได้
ป้ายหมายเลข 22 Kawaguchiko Natural Living Center จุดชมวิวฟูจิซังที่สวยอีกแห่งหนึ่ง เป็นป้ายสุดท้ายของรถบัสรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีร้านขายของฝากที่โดดเด่นในเรื่องบลูเบอร์รี่ ผลิตภัณฑ์ของสินค้าในพื้นที่ สวนดอกไม้ รวมทั้งยังเป็นจุดที่มีสวนเพาะต้นกล้าอีกด้วย ช่วงหน้าร้อนจะมีดอกลาเวนเดอร์บานที่ Oishi Park ริมชายฝั่ง ช่วงฤดูนี้มีแต่หญ้าแห้งๆค่ะ
ด้านหน้ามีร้านค้าขายพวกสินค้าคล้ายๆ OTOP บ้านเรา เมล็ดพันธุ์พืชและดอกไม้ รวมไปถึงดอกไม้กระถางเล็กๆ
ป้าย 11 Plesure Cruiser/Ropeway Ent. สำหรับคนที่มาล่องเรือหรือขึ้น Ropeway
วันนี้ฝนตกปรอยๆ เมฆมาก มองไม่เห็นวิวไกลๆ เลย
มีเรือนำเที่ยวชมวิวรอบทะเลสาบ
หรือจะเช่าเรือเป็ด แต่ไม่เห็นมีใครเค้าถีบกัน
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน Fujiyama Cookie ร้านอยู่ตรงริมถนนตรงข้ามกับทะเลสาบคาวากุจิโกะ เป็นร้านคุกกี้ของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ แต่เราเดินดูแล้วไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ เลยไม่ได้ซื้อมาชิม
เวลาเปิดร้าน : 10:00 – 17:00น.
ข้างๆ ร้านจะเป็นทางขึ้นไปยังกระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิยามะ (Mt. Kachi Kachi Ropeway)
ข้างๆกันคือร้าน Kawaguchiko Cheese Cake Garden ร้านนี้ขายเค้กและของฝากหลายอย่าง คนในร้านแน่นมาก อาจจะเพราะวันนี้ฝนตก ทุกคนเลยหาที่หลบฝน มีโต๊ะนั่งอยู่ 2-3 โต๊ะ ถ้าจะนั่งกินที่ร้านต้องสั่งเค้กอย่างน้อยคนละชิ้น ที่สั่งมาก็อร่อยทุกชิ้น มีกาแฟให้ฟรี ขนมของฝากที่นี่หน้าตาน่ากิน เสียเงินซื้อกลับมาหลายกล่อง โดยเฉพาะโดรายากิ อร่อยมากๆ
เวลาเปิดร้าน : 10:00 – 18:00น.
ป้ายหมายเลข 7 Kawaguchiko Herb Kan หรือ บ้านสมุนไพร
เป็นร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ชั้นสองมีงานฝีมือจากต้นไม้และดอกไม้
มี workshop ให้เราประดิษฐ์เองได้ด้วย
ข้างหลังบ้านสมุนไพรมีร้านขายของจุกจิก กระเป๋า เสื้อผ้า สวยน่าซื้อหลายชิ้นเลย
ผ่านไปถึงช่วงบ่ายเริ่มท้อแท้มาก ฟ้ายังไม่เปิด ฟูจิซังยังไม่ยอมโผล่ กำลังจะกลับโรงแรมนอน พอหันไปเริ่มเห็นฟูจิซังละ จึงหาที่เที่ยวต่อ โดยใช้บริการรถสายสีเขียวไปฝั่งทะเลสาบไซ(Saiko) ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิ ลงป้าย 68 Saiko Iyashi no Sato Nenba ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
Saiko Iyashi no Sato Nenba (หมู่บ้านเก่าที่สร้างใหม่) เป็นจุดถ่ายรูปฟูจิซังอีกแห่งหนึ่ง เดิมที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านชาวนา แต่โดนพายุพัดทำลายไปจนหมด จึงได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่เลียนแบบของเดิมเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง, แกลอรี่, จุดสอนการทำหัตถกรรมที่เปิดให้นักท่องเที่ยวลองทำได้, ร้านขายของพื้นบ้าน และร้านอาหาร จุดเด่นของหมู่บ้านคือหลังคาหนาที่ทำจากฟางหญ้า
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-17.00น. เดือน ธ.ค.-มี.ค. ปิดวันพุธ
ทางเข้าหมู่บ้าน มีจุดขายบัตรอยู่ด้านซ้ายมือ
ตอนเย็นกลับมาที่พัก คืนที่ 2 เปลี่ยนบรรยากาศ ไปพักห้อง Premium Suite ห้องใหญ่กว่ามาก ขนาด 70 m² มีออนเซ็นเล็กๆให้ตรงระเบียงห้อง แช่ไปชมวิวฟูจิซังไป ไม่ได้ถ่ายรูปในห้องพักนะ เห็นคนรีวิวกันไปเยอะแล้ว
วิวจากระเบียงห้อง
คืนสุดท้ายก่อนกลับ เริ่มเห็นฟูจิซังเต็มๆ ตากะเค้าซักที
การจองโรงแรมสามารถจองเองผ่านเว็บ Japanican หรือจองผ่าน JTB Thailand ก็ได้ค่ะ
