[Review] ไปญี่ปุ่นเองครั้งแรก ใบไม้เปลี่ยนสีที่คันไซ ตอนที่1 "เดินหลงทางใน Kyoto"

ทริปนี้เกิดจากความอยากไปแบบกระทันหัน จองตั๋วแอร์เอเชียแบบไม่รอโปรBigpoint เพราะแลกไม่เคยทัน ราคาตั๋วไปกลับคนละ 11,xxx บาท ช่วงวันที่ 15-22 พ.ย. 2558
ขาไป เที่ยวบิน XJ 610 วันที่ 15 ออกจากดอนเมือง ​15.20 น. ถึงสนามบินโอซาก้า ​22.40 น.
ขากลับ เที่ยวบิน XJ 611 วันที่ 22 ออกจากสนามบินโอซาก้า 00.10 น. ถึงดอนเมือง ​04.00 น.

แผนการเที่ยว ก็วางคร่าวๆ แล้วปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศ เผื่อวันฝนตก คือ
- วันที่ 1 เกียวโต : วัด Kiyomizu, วัด Kodaiji, Yasaka Shrine, ย่าน Gion, วัด kinkakuji, ศาลเจ้า Fushimi Inari 
- วันที่ 2 Arashiyama + เก็บตกเกียวโต : Nishiki market, Kyoto International Manga Museum, Kyoto Imperial Palace, Nijo Castle
- วันที่ 3 โกเบ +/- Himeji ถ้าเวลาเหลือ
- วันที่ 4 นารา 
- วันที่ 5 Universal Studio (จองตั๋วจาก HIS ที่ไทย) 
- วันที่ 6 โอซาก้า
ก่อนไปประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็ดูลมฟ้าอากาศในเว็บ เจอฝนตก 1 วันครึ่ง เราเลยเลือกไปโกเบวันที่ฝนตกเต็มวัน กับเกียวโตวันที่ฝนตกช่วงบ่ายค่ะ
การเดินทาง อาศัยดูเวลารถจาก Hyperdia และดูแผนที่ใน Google Maps

โรงแรมที่พัก 6 คืน เลือกพัก 2 ที่ในโอซาก้าทั้งหมด จองผ่านเว็บ Agoda
1. Hearton Hotel Nishi Umeda ราคา 11,406 บาท/2คน/4คืน 
เลือกจากรีวิวใน pantip เพราะไปถึง Flight ดึก เค้าว่าโรงแรมนี้อยู่ใกล้ที่จอดรถ Airport Limousine 
ใกล้จริงๆ เดินประมาณ 200 เมตรก็ถึง เดินจากทางออก JR Osaka ก็ประมาณ 300 เมตร ใกล้รถไฟฟ้าสถานี Umeda
2. Floral Inn Namba ราคา 5,802.56 บาท/2คน/2คืน 
ตึกดูเก่ากว่าโรงแรมแรก ห้องแคบกว่านิดหน่อย แต่เดินทางสะดวก ของกินรอบๆเยอะมาก 
อยู่ใกล้สถานี Namba เดินออกจากสถานี ทางออก 24 หรือ 26 ก็เจอโรงแรมห่างไปไม่ถึง 50 เมตร 

กว่าจะตรวจคนเข้าเมืองเสร็จก็ไม่มีรถไฟเข้าเมืองแล้ว ต้องออกมานอก terminal 1
ซื้อตั๋วรถบัส Osaka Airport Limousine เข้าไปในเมือง ลงที่ Osaka station 1550เยน ตู้กดตั๋วอยู่ตรงป้ายรถบัสเลย
ซื้อตั๋วเสร็จมาเข้าแถวรอรถ มีหลายแถว ลองดูป้ายดีๆ ว่าไปลงที่ไหน (สังเกตง่ายๆคือแถวยาวสุดไปOsaka)

นั่งรถมาถึงสถานีโอซาก้าเกือบตีหนึ่ง เดินลากกระเป๋าไปโรงแรม Hearton Hotel Nishi Umeda อยู่ห่างไปประมาณ 200ม. ทางเข้าอยู่ตรงข้ามตึก Herbis Osaka หน้าตาสวยๆแบบนี้

ถ้าช่วงกลางวันก็ออกจากสถานีโอซาก้าทาง Sakurabashi gate เดินข้ามถนนเดินทะลุตึกที่มีร้านอาหารเยอะๆ ออกไปเจอโรงแรมเลย ตรงทางออกมีร้านทาโกะยากิแบบลูกเล็กๆ ไม่ต้องราดซอส อร่อยเหาะ 

มาถึงก็หิวมากค่ะ บิน lowcost ไม่มีอาหารให้ ถามทางพนักงานไป 7 กับร้านข้าว ทางโรงแรมดี๊ดี มีแผนที่แจกพร้อมตั้งใจอธิบายทางมาก

7 อยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ  300m. เวลาเดินไป 7 จะผ่านตึกแมวหน้าตาแบบนี้ 

เดินต่อจาก 7 ข้ามถนนมาอีกนิด มีร้านข้าวเปิด 24 ชม.

อาหารค่ำมื้อแรกเป็นร้านแบบมีตู้ให้หยอดเงิน กดเมนู ได้บัตรมาแล้วเอาไปยื่นให้พนักงาน

ราคาไม่แพงอร่อยใช้ได้เลย

วันแรก 16/11/58 ลุยเกียวโต แบบงงๆ หลงทั้งวัน
นั่ง JR จากสถานีโอซาก้าไปสถานีเกียวโต เลือกเวลาเดินทางหลังเวลาเร่งด่วนประมาณ8โมงกว่าๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งชม. ค่าตั๋วเที่ยวละ 560 เยน เจอแจ๊คพอตตั้งแต่วันแรก รถไฟดีเลย์มั่วไปหมด ไม่เห็นตรงกับ Hyperdia เลย จะถามทางใครก็มีแต่นักท่องเที่ยวไทย-จีน ยืนงงๆกันหมด เลยอาศัยถามนายสถานีค่ะ สุดท้ายก็ได้ขึ้น  

วิวผ่านกระจกรถไฟ

มาถึงเกียวโตแล้ว ดีใจมากที่ไม่หลง

หน้าสถานีตอนเช้า-บ่าย

เดินไปซื้อ Kyoto Sightseeing Two-day Pass 2000 เยน สามารถขึ้นรถบัสและรถไฟฟ้าใต้ดินได้ไม่จำกัดเที่ยว ที่ Information center อยู่ใกล้จุดจอดรถบัส

ซื้อเสร็จก็มายืนต่อแถวรอขึ้นรถบัส มีป้ายแยกเป็นสายๆให้เราเลือกต่อเลยค่ะ 

ไปต่อสาย 100 เพื่อไปวัด Kiyomizu เลือกลงป้าย Gojozaka หรือ Kiyomizu michi ก็ได้  แถวยาวมากกกกกก แต่ก็รอไม่นานเท่าไหร่ รถบัสมาถี่มากๆ

ถ่ายรูปเมืองโตเกียวจากในรถบัส

นั่งรถไม่กี่ป้ายก็ถึง ส่วนใหญ่คนลงป้ายGojozaka กัน ป้ายนี้จะเดินไปเจอถนนสายกาน้ำชา

มาถึงวัดแล้ว คนเยอะเหมือนที่เคยมาเมื่อกลางปี ใบไม้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนสี 😭

เดินลงบันไดผ่านน้ำ3สาย ระหว่างทางออกจากวัดใบไม้ก็ยังเขียวเป็นส่วนใหญ่

เดินเล่นถนนสายกาน้ำชาแล้วเลี้ยวออกทางขวามือเพื่อไปวัด Kodaiji

ระหว่างทางเจอร้านขนมอร่อย เรียกอะไรไม่รู้ ไส้ถั่วแดงหวานน้อยๆ กำลังดี

ตอนแรกวางแผนว่าจะทานข้าวเที่ยงที่ร้านผักดองชื่อดัง Akoya Chaya แต่คิวยาวมาก เลยไปหาร้านใกล้ๆ ทาน ชื่อร้าน Kamanza แพงนิดๆ รสชาติกลางๆ ปลาไหลก้างเพียบ จุดเด่นคือข้าวเป็นเซ็ตให้เลือกทานคู่กับโซบะหรืออุด้ง

อาหาร+ขนมมื้อเที่ยง

ระหว่างทางผ่าน Ryozen Kannon Temple วัดเจ้าแม่กวนอิม โดยบังเอิญ

เดินต่อไปจนเจอวัด Kodaiji เดินมากตั้งไกล สุดท้ายไม่ได้เข้า ค่าเข้าแพงเกิ๊น

ระหว่างทางผ่านศาลเจ้าเล็กๆ เต็มไปหมด ไม่รู้ว่าชื่ออะไรบ้าง

ผ่าน สวนสาธารณะชื่ออะไรไม่รู้ ระหว่างเดินหลงทางไปย่าน Gion คนญี่ปุ่นมากันเยอะมาก 

เดินมาเจอ Yasaka Shrine ได้ไงไม่รู้

ประตูใหญ่มาก

หลงทางอยู่นาน ถึงย่าน Gion ซักที ควรมาค่ำๆนะคะ ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไร 

มีสาวๆ ใส่ชุดกิโมโนเดินอยู่ประปราย

แวะกินชูครีมร้าน Ushiwakamaru ร้านกาแฟเน้นชูครีม เห็นในหนังสือแนะนำมา 

สั่ง Cream Puff of Piecrust ชูครีมชิ้นละ 300 เยน อร่อยนิดเดียว แต่ป้าเจ้าของร้านดุมาก เข้าไปสองคนทั้งร้านไม่มีลูกค้า แต่ไม่ยอมให้เรานั่งโต๊ะ ให้ไปนั่งเคาเตอร์ 

ซักพักคนญี่ปุ่นเข้ามา 2 คน ให้นั่งโต๊ะเฉยเลย บังคับสั่งเครื่องดื่มคนละแก้วด้วย กาแฟรสชาติไม่ได้เรื่อง 

ข้ามโปรแกรมวัดทองไปเพราะมัวแต่เดินหลงจนเมื่อยขามาก แล้วก็เคยมาสองครั้งละ 

นั่งรถบัสกลับมาสถานีเกียวโต ต่อ JR ไปศาลเจ้า Fushimi Inari 140เยน 

ไปถึงห้าโมงเย็นนิดๆ แต่มืดซะแล้ว ลืมไปว่าฤดูหนาว อดถ่ายรูปกับเสาโทริอิสวยๆเลย 

กลับไปทานข้าวเย็นที่ชั้น16 สถานีโอซาก้า ร้านอาหารเพียบ เลือกร้านที่มีข้าวอยู่ในชามไม้ ให้เทน้ำซุปลงไปได้ อ่านชื่อร้านไม่ออก แต่อร่อยดี

กินข้าวเสร็จประมาณ 2ทุ่ม ไปเดินซื้อขนมที่ห้างไดมารูชั้น B1 ได้เค้กร้าน Baby Mon Cher หิ้วกลับโรงแรม 1 ชิ้น

ตอนที่ 2 >> วันที่ 2 "Arashiyama + เก็บตก Kyoto"