วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

[Review] พาแม่ Backpack เที่ยว Singapore 4 วัน 3 คืน Part3

เช้าของวันที่3 เริ่มตระเวนเดินเที่ยวแถว Chinatown 
33. Masjid Jamae (Chulia)
จากโรงแรมเดินไปตามแผนที่ 400ม. ถึงMasjid Jamaeเป็นที่แรก เดินผ่านเฉยๆ ไม่ได้เข้าด้านใน
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A
เวลาเปิด-ปิด : 5.45-21.30น.
34. Sri Mariamman Temple
อยู่ตรงข้าม Masjid Jamae เป็นวัดฮินดูเก่าแก่อีกแห่งของสิงคโปร์สร้างขึ้นเพื่อถวายพระแม่อุมาเทวี ถ้าจะเข้าไปถ่ายรูปด้านในต้องเสียค่าเข้า 3SGD เกือบร้อยแน่ะ เลยขอผ่าน
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A
เวลาเปิด-ปิด : 7.00-12.00, 18.00-21.00น.
เดินมาอีก 190ม. มาทานกาแฟมื้อเช้ากัน
35. Nanyang Old Coffee
ร้านอยู่ตรงปากทาง Chinatown food street
ตอนเช้ายังไม่มีร้านไหนเปิด
ทั้งนอกร้านในร้าน สีแดงสดใส 
ช้อนกาแฟที่สิงคโปร์สีแดงใหญ่เท่าช้อนกินข้าวทุกร้าน?
ร้านกาแฟระดับรางวัลของสิงคโปร์ นอกจากกาแฟมีขนมปังคายา ไข่ลวก ขนมจีบ ซาลาเปา และอาหารอื่นๆอีกนิดหน่อย กาแฟเค้าอร่อยสมชื่อจริง มีให้เลือกสั่งหลายแบบแปะไว้ให้ดูบนโต๊ะ อีกอย่างที่อร่อยคือขนมจีบ ส่วนปังคายากับไข่ลวกสู้ร้าน Ya Kun ไม่ได้
พิพิธภัณฑ์กาแฟ 
ไปถึงตั้งแต่ร้านเพิ่งเปิด เลยดูโล่งๆ
ในร้านมีพิพิธภัณฑ์กาแฟให้ชม ก่อนกลับใครถูกใจกาแฟก็มีขายสำเร็จรูปให้ซื้อกลับบ้าน
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A
เวลาเปิด-ปิด : 7.00-18.00น.
36. Buddha Tooth Relic Temple & Museum (วัดพระเขี้ยวแก้ว)
สถานที่ท่องเที่ยวที่ใครมาสิงคโปร์ต้องห้ามพลาด วัดจีนขนาดใหญ่สวยงาม มีลิฟท์ขึ้นไปชั้น 2-4 เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
ไปถึงแปดโมงเช้า ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว
ด้านในใหญ่โตสวยงาม มีชาวสิงคโปร์มาไหว้พระตลอด 
เดินทะลุออกไปทางด้านหลัง 
ขึ้นลิฟท์ไปชั้น4แล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดมีสวนสวย 
ตรงนี้หมุนได้ เห็นมีลุงชาวสิงคโปร์มาเดินหมุน ที่เขียนอยู่น่าจะเป็นบทสวด 
ตรงผนังมีองค์พระเล็กๆ ด้านล่างเป็นชื่อผู้บริจาค
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit B
เวลาเปิด-ปิด : 7.00-19.00 ส่วนพิพิธภัณฑ์เปิด 9.00
37. Chinatown Complex
เดินทะลุไปด้านหลังวัดก็จะเจอ Chinatown Complex อดีตตลาดสดที่ปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น มีของสดขาย ร้านค้า รวมทั้งร้านอาหาร แถมยังมีร้าน”Hong Kong Soya Sauce Chicken Rice and Noodle” หนึ่งในลายแทงมิชลิน สตาร์ด้วย แต่ไม่ได้แวะไปชิมนะ
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00น.
38. Tak Po 
ไหนๆก็ผ่านแล้ว เลยแวะมากินมื้อสายที่ร้านติ่มซำร้านนี้ หนังสือบอกว่าขึ้นชื่อ คนมากินเยอะแยะ โต๊ะเต็มตลอด ราคาไม่แพงมาก แต่เราว่ารสชาติธรรมดา อร่อยสุดน่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอด แป้งก๋วยเตี๋ยวเค้านุ่มดี มื้อนี้ค่าเสียหาย 25.05SGD
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-22.00น.
39. Chinatown Street Market
แหล่งชอปปิ้งของฝาก เดินเข้ามาด้านในจะถูกกว่าไปซื้อแถววัดพระเขี้ยวแก้ว แต่ละร้านตั้งราคาไม่เท่ากัน ต้องลองเปรียบเทียบดีๆ
ออกจากวัดพระเขี้ยวแก้วตรงซอยด้านข้างก็เริ่มเจอร้านขายของฝากแล้ว 
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00น.
40. Chinatown Food Street
ถนนสายอาหารของ Chinatown เปิดช่วงสายถึงดึก เดินดูผ่านๆ ราคาแพงพอกับกินตามร้าน
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A
41. Chinatown Heritage Centre 
พิพิธภัณฑ์ชาวจีน แสดงประวัติศาสตร์ชาวจีนตั้งแต่อพยพมา จนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ค่าเข้า 10SGD แน่ะ เลยขอผ่านแต่ด้านหน้าละกัน ที่นี่มี Pokestop ตรงรูปปั้นคนใส่หมวกแดงข้างหน้า
การเดินทาง : MRT Chinatown Exit A
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-20.00น.
42. Old Chang kee
ร้านขายของจำพวกทอด มีทั้งของคาวและขนม มีหลายสาขา ราคาเริ่มที่ 1 SGD เราเจอที่หน้าChinatown Heritage Centre กับ Bugis Junction ลองซื้อปลาหมึกทอดกับหอยจ๊อมากิน ก็อร่อยจริงแฮะ ปลาหมึกทอดเก่ง ไม่เหนียวเลยแม่ฟันไม่ค่อยดียังกินได้
เมนูกับสาขาดูได้ที่ >> http://www.oldchangkee.com/

เดินกลับมาพักที่โรงแรมประมาณ 2 ชั่วโมงแล้วเดินทางต่อไป Suntec City Mall เพื่อไปดูน้ำพุแห่งความโชคดี 
43. Suntec City Mall และกลุ่มอาคาร Suntec City
กลุ่มอาคารที่มีทั้งศูนย์ประชุม อาคารแสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้า ศูนย์อาหาร
ไปชอปปิ้งได้รองเท้ากีฬามา2คู่ จากร้าน Liv Activ ถูกกว่าชอปที่ไทยคู่ละพันกว่าบาท 
การเดินทาง : MRT Promenade Exit C
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00น.
website : http://sunteccity.com.sg/
44. Fountain of Wealth(น้ำพุแห่งความโชคดี)

กลางคืนเปิดไฟแล้วสวยกว่าเยอะ 

จะเดินขึ้นมาตรงน้ำพุต้องเข้ามาในห้างลงมาชั้นล่างสุด แล้วจะมีบันไดเดินขึ้นไปน้ำพุอีกที
ด้านล่างมีประตูเปิดให้เข้าไปสัมผัสน้ำพุเพื่อความเป็นศิริมงคลได้เป็นรอบๆ ตอน 10.00-12.00, 14.00-16.00, 18.00-19.30
มีเจ้าหน้าที่คอยนับจำนวนปล่อยคนเข้าไปเป็นรอบๆ มีจับเวลาด้วย ดีอ่ะ  
น้ำพุเปิด 8.00-22.00น.
มีการแสดงเลเซอร์เวลา20.00-21.00น.
การเดินทาง : MRT Promenade Exit C

45. Food Republic
ศูนย์อาหารที่พบได้หลายแห่งในสิงคโปร์ ส่วนใหญ่อยู่ในห้างสรรพสินค้า อยู่ชั้นล่างสุดของ Suntec City Mall บางร้านอร่อย บางร้านก็พอกินได้ ราคาถูกกว่ากินตามร้านนิดหน่อย วันนี้ทานมื้อเที่ยงกันที่นี่
ข้าวหมูกรอบ+หน้าเป็ดอร่อยกว่าร้านที่กินวันแรก
ปอเปี๊ยะสดสิงคโปร์ไส้มีแต่ผักๆๆๆๆ รสชาติธรรมดา
มีคนอยากลองอาหารอินเดีย อร่อยใช้ได้ทีเดียว 
ข้าวมันไก่ จำชื่อร้านไม่ได้แต่อร่อย สมแล้วที่ประเทศนี้ดังเรื่องข้าวมันไก่
46. All Things Nice
ร้านขนมหวาน  มีเมนูคล้ายน้ำแข็งใสบ้านเรา ราคาไม่แพง ลองถั่วดำ(2.5SGD)กับเผือก(2.8SGD) อร่อยดี ไม่หวานจัด แถมร้านอยู่ติดกับกระจกรอบน้ำพุ นั่งกินไปดูน้ำพุไปได้เลย
47. Merlion Park และชมการแสดง Wonder Full
มาสิงคโปร์ก็ต้องมาดู Merlion รูปปั้นสิงโตครึ่งปลาสีขาว ตรงนี้อยู่ค่อนข้างไกลจาก MRT เราเลยนั่งแท็กซี่มา Merlion ที่สิงคโปร์มี 5ตัว ตัวใหญ่สุดอยู่ที่เซนโตซา ประมาณ20ปีก่อนตอนแม่พาเรามาเที่ยว ตัวนี้ปิดซ่อมอยู่
ตัวนี้สูง8.6ม. ความสามารถพิเศษคือพ่นน้ำ 
ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ยังมีคนมานั่งคุยกัน แปลกตรงที่สิงคโปร์ไม่ค่อยมียุง ยังอุตส่าห์เจอ Zika ระบาดได้อีก
กะเวลาให้มาทันแสดงเลเซอร์ประกอบแสงสีเสียงและม่านน้ำ "Wonder Full" รอบ 2 ทุ่ม (วันอาทิตย์-พฤ มี 2 รอบ 20.00, 21.30 และ วันศุกร์-เสาร์ มี 3 รอบ 20.00, 21.30, 23.00น.) การแสดงยาวประมาณ 13 นาที
สามารถชมได้จากหลายที่เช่น Sand Sky Park ฝั่งโรงแรม Marina Bay Sand ดูตรงนี้เราว่าไกลไป
ใกล้เวลาแสดง นักท่องเที่ยวจับจองที่นั่งรอดูกันเต็ม
การเดินทาง : MRT Clarke Quay Exit E หรือ MRT City Hall Exit B 
48. Jubilee Bridge
หนึ่งในจุดชมวิวของสิงคโปร์ เป็นสะพานยาว 3.5 กม.เชื่อมระหว่างอาคารเอสพลานาดกับรูปปั้น Merlion
การเดินทาง : MRT Clarke Quay Exit E หรือ MRT City Hall Exit B
49. Esplanade
โรงละครเอสพลานาด หน้าตาข้างนอกเหมือนหนามทุเรียน เป็นที่จัดแสดงละครและคอนเสิร์ต นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านค้า และห้องสมุดด้วย ตึกนี้เราส่องจากไกลๆ เพราะมันเกินระยะที่แม่จะเดินไหว
เวลาเปิด-ปิด : ด้านนอกเปิด 24 ชม. แต่ด้านในเปิด 6.00-3.00น.
การเดินทาง : MRT Clarke Quay Exit E หรือ MRT Esplanade Exit D
website : https://www.esplanade.com/
50. The Helix
สะพานแบบเกลียวเชื่อมริมอ่าว Marina กับ Marina Bay Sand ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยงาม มีจุดชมวิวบนสะพาน 2 แห่งด้วย สะพานเปิด 24 ชม. แต่ไฟที่สะพานพอหลังเที่ยงคืนเค้าก็ปิดแล้ว เรานึกว่าเปิดไฟตลอด เดินๆอยู่อ้าวว!! ไฟดับหมดซะงั้น เป็นการบังคับเดินกลับไปโดยปริยาย เดินมาถึงทัน MRT เที่ยวสุดท้ายพอดี
ไฟบนสะพานแต่ละวันน่าจะเปิดสีไม่เหมือนกัน ในรูปที่เราดูมาเป็นสีน้ำเงิน 
การเดินทาง : MRT Promenade Exit A หรือ MRT Bayfront Exit C 
ขาไปเรานั่งแท็กซี่ไปนะ เพราะเดินจากสถานีค่อนข้างไกล ให้รถไปส่งที่ปลายสะพานฝั่ง Youth Olympic Park แล้วเดินมาเรื่อยๆ ผ่าน Art Science Museum, Marina Bay Sand แล้วนั่ง MRT ที่สถานี Bayfront กลับโรงแรม
แท็กซี่พามาส่งตรงนี้
51. Art Science Museum
พิพิธภัณฑ์ศาสตร์และศิลป์ ที่ออกแบบตัวอาคารได้น่าสนใจ ภายในมีนิทรรศการผลัดกันมาจัดแสดง
วิวอาคารจาก Helix Bridge 
การเดินทาง : MRT Bayfront Exit B C D E
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00น.

52. Fort Cunning Park
ตอนเช้าวันที่4 เราเริ่มด้วยการไปดูปล่องต้นไม้ที่สวนสาธารณะ Fort Cunning 
การเดินทาง : จาก Chinatown นั่งMRTสายสีม่วง ไปลง สถานี Dhoby Ghaut Exit B ข้ามถนน Penang เจอห้าง Park Mall แล้วเดินมาทางซ้ายประมาณ 100ม. จะเจอบ่อหัวมังกรที่ไม่มีน้ำ
เดินไปตามทาง Slope ซ้ายมือ จะเจออุโมงค์ ปลายสุดก็เห็นบันไดเวียนขึ้นไปปล่องต้นไม้ที่เราตามหาแล้ว
แต่เราจะเดินไปตามทางด้านขวามือก่อน
เดินไปเรื่อยๆ สุดทางจะเจอสวนสาธารณะ 
เดินทางซ้ายเลียบถนนมาตาม Cunning walk ก็จะเจอปากปล่องอันเดิม
ถนนด้านข้างมีรถวิ่งนานๆคันนึง 
วนกลับมาเจอปากปล่องแล้ว 
เดินกลับมาขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดงไป 1 สถานี ลงที่ City Hall  
53. St. Andrew's Cathedral
โบสถ์สีขาวออกแบบสไตล์Gothic เดินทางมาสะดวก ติดสถานีรถไฟฟ้า
การเดินทาง : MRT City Hall Exit B
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-17.00 (วันพุธเปิด 9.45น.)
54. Capital Plazza
ห้างสรรพสินค้าสีขาวขนาดใหญ่ตรงข้ามโบสถ์ ชั้นใต้ดินมีศูนย์อาหาร Food Republic ให้ฝากท้อง
สิงคโปร์รถไม่ติด ขนาดวันทำงานนะเนี่ย 
ข้อเสียของการเที่ยววันธรรมดาคือร้านในศูนย์อาหารเปิด 11 โมง (วันหยุดเปิด 10.30) เราไปถึงประมาณ 10โมงครึ่งเลยไม่มีอะไรให้กิน ก็เลยนั่งรถไฟฟ้ากลับมากินบักกุ๊ดเต๋ร้านเดิมที่ตรงข้ามโรงแรม ก่อนจะเก็บกระเป๋า Check-out ตอนเที่ยงแล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน
55. Marina Bay Sand
มาถึงสิงคโปร์แล้วก็แวะมาดูที่นี่หน่อย นั่ง MRT สายสีน้ำเงินมาลงสถานี Bayfront ออกทางที่เป็นห้างสรรพสินค้า
เดินชอปปิ้งดูนาฬิกา ลดน้อยกว่าร้านตามห้างข้างนอก5% สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้ออะไร มาดูอ่างน้ำวนตรงนี้สวยดี
เสร็จแล้วนั่ง MRT สายสีน้ำเงินไปลงสถานี Bugis เพื่อไปชอปปิ้งที่ Bugis Junction ก่อนกลับเดินเที่ยวอีกนิดตามแผนที่
56. TOSUTA Master
ร้านขนมปังอยู่ตรงทางเดินใน MRT สถานี Bugis หน้าตาคล้าย Mr. Bun บ้านเรา แต่ทำขนมปังได้หอมนุ่มกว่ามาก และก็มีขนมปังให้เลือกหลายแบบ มีแบบไส้ไหลด้วย ผ่านทีไรก็ซื้อทุกครั้ง ลองไป 3 แบบ อร่อยทุกอย่างเลย
ชอปปิ้งเสร็จเราเดินต่อไป Sultan Mosque ผ่าน Parkview Square
57. Parkview Square
ตึกออฟฟิซที่ดูเด่นมาก ด้านในมีจุดเด่นตรงมีรูปปั้นต่างๆยืนแบกเสารอบตึก และมีรูปปั้นนกกระเรียนบินหันหน้าไปทางเมืองจีน(เค้าว่าถือเคล็ดเรื่องฮวงจุ้ย)
58. Sultan Mosque
เดินมาประมาณ 700ม. ก็มาถึงมัสยิดขนาดใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ เป็นศิลปะสไตล์อาหรับ มีจุดเด่นที่โดมทองขนาดใหญ่
เข้าด้านในต้องแต่งกายสุภาพ แต่ถ้าลืมไม่เป็นไร มีชุดคลุมให้เหมือนวัดบ้านเรา
การเดินทาง : MRT Bugis Exit B เดินมาประมาณ 550ม.
เวลาเปิด-ปิด : 9.00-12.00, 14.00-16.00 ยกเว้นวันศุกร์ช่วงบ่ายเปิดเวลา 14.30-16.00น.
เดินออกมาจะพบถนนคนเดิน Bussorah Street 2 ข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของและร้านอาหาร
59. Haji Lane
แหล่งรวมร้านค้าบูติกฮิปๆ และคาเฟ่น่ารักๆ แถมตามผนังก็มีรูปวาด Street Art สวยๆ เต็มไปหมด เหมาะสำหรับการมาถ่ายรูป เสียดายได้แวะแป๊บเดียว
การเดินทาง : MRT Bugis Exit B 
ร้านเปิดตั้งแต่ประมาณ 10.00น.
60. Bali Lane
อยู่ถัดจากซอยHaji เป็นถนนสายกลางคืน รวมผับบาร์เก๋ๆ ไว้เพียบ
การเดินทาง : MRT Bugis Exit B 
ร้านเปิดตั้งแต่ประมาณ 15.00-01.00น.
61. Porcelain Hotel 
แถมที่สุดท้ายก่อนกลับ โรงแรมที่อยู่ใกล้กัน มีคนไทยมาพักเยอะพอสมควร บังเอิญเดินมาเจอเพราะที่รร.มีPokestop อยู่ตรงผนังสวยๆนี่แหละ
การเดินทาง : MRT Chinatown exit A, E

จากโรงแรมเราเดินทางไปสนามบินด้วย MRT เหมือนเดิม อย่าลืมเผื่อเวลาไปขอคืนภาษีที่สนามบิน เอกสารขอคืนภาษีร้านค้าจะออกให้เวลาซื้อสินค้า (ขั้นต่ำ 100SGD/ร้าน) เราเอามายื่นที่เคาท์เตอร์ GST Refund ขึ้นเครื่องที่อาคารไหนก็ทำรายการที่อาคารนั้นนะ เราเผลอไปตรง terminal2 โดนไล่มาทำที่ terminal1 มีเครื่องอัตโนมัติให้บริการเพื่อความรวดเร็ว ขั้นตอนไม่ยาก แสกนพาสปอร์ต >> สแกนเอกสารจากร้าน เสร็จแล้วมีสลิปออกมาให้เราไปขอเงินคืนที่เคาท์เตอร์ Central Refund (หรือจะให้คืนใส่บัตรเครดิตก็ได้) ถ้าสลิปเขียนว่า "Not Approve" ไม่ต้องต๊กใจ แปลว่าให้เดินตรงไปที่เคาท์เตอร์ Customs Inspection เพื่อตรวจสอบสินค้าก่อน ของเราเค้าขอดูกระเป๋ากับนาฬิกา แต่รองเท้าไม่ยักกะขอดู(แพงกว่ากระเป๋าอีก)
ปิดท้ายด้วยวิวสวยๆจากห้องน้ำในสนามบิน

--------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น